Privacy Policy

การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

วัตถุประสงค์

บริษัทตระหนักถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Privacy) ของพนักงาน ลูกค้า คู่ค้าธุรกิจ ผู้มีความสัมพันธ์ทางธุรกิจ และบุคคลอื่นที่สามารถระบุตัวตนได้ ดังนั้น บริษัทจึงได้จัดทำนโยบายและระเบียบด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ขึ้น เพื่อให้การดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ตลอดจนการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศเป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 รวมถึงมีการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลจากการถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดและรักษาข้อมูลดังกล่าวให้ปลอดภัยตามมาตรฐานสากล

คำนิยาม

“บริษัท” หมายถึง บริษัท เบอร์รี่ บี กรุ๊ป  จำกัด

“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคล ซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ เช่น ชื่อ สกุล ที่อยู่ วันเดือนปีเกิด เพศ ประวัติการศึกษา หมายเลขโทรศัพท์ เลขประจำตัวประชาชน เลขหมาย รหัส และให้หมายความรวมถึงข้อมูลอื่นใดเกี่ยวกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม

“ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว” หมายถึง ข้อมูลที่เป็นเรื่องส่วนตัวโดยแท้ของบุคคล เกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกัน

“เจ้าของข้อมูล” หมายถึง บุคคลซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เช่น พนักงาน ลูกค้า คู่ค้า ผู้มีความสัมพันธ์ทางธุรกิจ เป็นต้น

“ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งมีอำนาจตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

“ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ตามคำสั่งหรือในนามผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล โดยที่บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการดังกล่าวไม่เป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล

“ผู้ใช้บริการ” หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ที่เข้ามาติดต่อยังระบบสารสนเทศของบริษัท

“ระบบข้อมูลสารสนเทศ” หมายถึง ระบบคอมพิวเตอร์ ระบบเครือข่ายติดต่อสื่อสาร ระบบเครือข่ายเชื่อมต่อเข้าระบบอินเทอร์เน็ต ระบบเก็บข้อมูล ระบบจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) ระบบสื่อสารข้อมูลทุกประเภท ข้อมูลอุปกรณ์สื่อสาร อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ต่อพ่วง หรืออุปกรณ์ใดๆ ที่เกี่ยวข้องอันเป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัท และ/หรือที่บริษัทได้รับอนุญาตให้ใช้ได้ตามกฎหมาย

สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับการแต่งตั้งขึ้น โดยมีหน้าที่และอำนาจกำกับดูแล ออกหลักเกณฑ์ มาตรการ หรือข้อปฏิบัติอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562

หลักการ

บริษัทกำหนดให้มีนโยบายและระเบียบ รวมทั้งแนวปฏิบัติในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ตลอดจนกำกับดูแลให้มีการปฏิบัติตามนโยบายและระเบียบ รวมทั้งแนวปฏิบัติอื่นใดที่เกี่ยวข้อง และหาแนวทางพัฒนาปรับปรุงเพื่อให้การนำไปปฏิบัติมีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งเพื่อให้มั่นใจว่ามีการรายงานผลการปฏิบัติงานตามนโยบายและระเบียบ รวมทั้งแนวปฏิบัติที่เกี่ยวข้อง

นโยบาย

    1. การเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

การเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล จะกระทำเท่าที่จำเป็น โดยมีวัตถุประสงค์ ขอบเขต ฐานทางกฎหมาย รวมถึงใช้วิธีการที่ชอบด้วยกฎหมายและเป็นธรรม ตามวัตถุประสงค์ในการดำเนินงานของบริษัท และตามที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น ทั้งนี้บริษัทจะแจ้งวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลก่อนหรือในขณะดำเนินการดังกล่าว เว้นแต่เป็นกรณีที่กฎหมายกำหนด และ/หรือในกรณีอื่นๆ ตามที่กำหนดไว้ในนโยบายฉบับนี้

อนึ่ง บริษัทจะไม่เก็บรวมรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว เว้นแต่จะได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากเจ้าของข้อมูล หรือเป็นไปตามกรณีที่กฎหมายกำหนด และ/หรือกรณีอื่นๆที่กำหนดไว้ในนโยบายฉบับนี้

    2.การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ

เนื่องจากการดำเนินกิจการของบริษัทในปัจจุบัน อาจมีการติดต่อประสานงานหรือดำเนินธุรกรรมกับต่างประเทศ ซึ่งทำให้ในบางครั้งบริษัทจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลไปยังต่างประเทศ ในการนี้ บริษัทจะใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ในการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลไปยังพันธมิตรทางธุรกิจ ผู้ให้บริการ คู่ค้า ลูกค้า หรือผู้รับข้อมูลของบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือด้วยวิธีการที่ปลอดภัยที่สุดเพื่อรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล โดยการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศเช่นว่านั้น บริษัทจะกระทำเท่าที่จำเป็น โดยมีวัตถุประสงค์ ขอบเขต รวมถึงใช้วิธีการที่ชอบด้วยกฎหมายและเป็นธรรมตามวัตถุประสงค์ในการดำเนินงานของบริษัท และตามที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น ทั้งนี้บริษัทจะแจ้งวัตถุประสงค์ และจะขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลก่อนหรือในขณะดำเนินการดังกล่าว เว้นแต่เป็นกรณีที่กฎหมายกำหนด และ/หรือในกรณีอื่นๆ ตามที่กำหนดไว้ในนโยบายฉบับนี้

อนึ่ง บริษัทจะไม่ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวไปต่างประเทศ เว้นแต่จะได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากเจ้าของข้อมูล หรือเป็นไปตามกรณีที่กฎหมายกำหนด และ/หรือกรณีอื่นๆที่กำหนดไว้ในนโยบายฉบับนี้

    3. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทอาจจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลจากเจ้าของข้อมูลผ่านทางช่องทาง ดังต่อไปนี้

    3.1 บริษัทจัดเก็บรวบรวมข้อมูลจากเจ้าของข้อมูลโดยตรง ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ (1) กรณีที่เจ้าของข้อมูลให้ข้อมูลแก่บริษัทผ่านทางการกรอกแบบฟอร์ม รวมถึงแบบฟอร์มอิเล็กทรอนิกส์ (2) โดยการติดต่อกับบริษัทผ่านทางอีเมล์ (3) โดยการสื่อสารกับบริษัทด้วยตนเอง หรือทางโทรศัพท์ (4) ขณะที่เจ้าของข้อมูลเข้าเยี่ยมชมบริษัท (5) จากการใช้งานเว็บไซต์หรือแอพพลิเคชั่นของบริษัท (6) จากการเข้าร่วมในกิจกรรมกับบริษัท เป็นต้น

    3.2 บริษัทจัดเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากบุคคลที่สาม คือกรณีที่บริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจาก

แหล่งข้อมูลอื่นที่ไม่ใช่เจ้าของข้อมูลโดยตรง ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ (1) ข้อมูลบุคคลผู้ติดต่อฉุกเฉินหรือบุคคลอ้างอิงถึงในเอกสารการสมัครงาน (2) บริษัทลูกค้า ผู้ร่วมทุน พันธมิตรทางธุรกิจ ข้อมูลบนเว็บไซต์สาธารณะ ข้อมูลจากบริษัทในเครือ หรือข้อมูลจากบุคคลอื่นใด

   3.3 บริษัทจัดเก็บรวบรวมข้อมูลที่เป็นข้อมูลสาธารณะ คือ กรณีที่บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลของเจ้าของข้อมูลจากแหล่งข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะอยู่แล้ว ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ (1) ข้อมูลการจดทะเบียนของบริษัท สมาคม องค์กร (2) ข้อมูลของผู้ได้รับอนุญาตทางด้านตลาดทุน (3) แหล่งข้อมูลสาธารณะอื่นๆ รวมถึงบริการใดๆ ที่สามารถเข้าถึงได้บนอินเทอร์เน็ต

    4. คุณภาพของข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทมีการรวบรวมและจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ภายในอำนาจหน้าที่และวัตถุประสงค์ในการดำเนินงานตามของบริษัท โดยคำนึงถึงความถูกต้อง ครบถ้วน และเป็นปัจจุบันของข้อมูล

  5. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ

บริษัทจะทำการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ เพื่อประโยชน์ในการดำเนินงานของบริษัท ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ การจัดซื้อจัดจ้าง การทำสัญญา การทำธุรกรรมทางการเงิน การดำเนินกิจกรรมของบริษัท การติดต่อประสานงานต่างๆ เพื่อปรับปรุงคุณภาพการทำงานของบริษัทให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น การจัดทำฐานข้อมูล วิเคราะห์และพัฒนากระบวนการดำเนินงานของบริษัท เพื่อความจำเป็นในการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย เพื่อเป็นหลักฐานในการยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามคำสั่งศาลหรือคำสั่งของหน่วยงานราชการที่มีอำนาจตามกฎหมาย เพื่อผลประโยชน์โดยชอบธรรม และเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดที่ไม่ต้องห้ามตามกฎหมาย และ/หรือ เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือระเบียบหรือนโยบายที่เกี่ยวข้องต่อการดำเนินงานของบริษัท

สำหรับข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว (กรณีที่มีการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ โดยบริษัทได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากเจ้าของข้อมูล หรือ กรณีเข้าตามข้อยกเว้นที่กำหนดเอาไว้ในกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล) บริษัทได้ดำเนินการเพื่อวัตถุประสงค์เพื่อการคัดกรองโรค หรือประเมินความเสี่ยงที่จะเป็นโรคติดต่อ เพื่อพิจารณาความพร้อมทางร่างกายในการปฏิบัติงาน และเพื่อรายงานตามขั้นตอนที่บริษัทกำหนด หรือตามที่หน่วยงานกำกับดูแล หรือหน่วยงานตามที่กฎหมายกำหนด

อนึ่ง บริษัทจะจัดเก็บ รวมรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ ตามวัตถุประสงค์และหลักเกณฑ์ที่บริษัทกำหนด

    6. ฐานทางกฎหมายในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

การเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลโดยทั่วไป บริษัทดำเนินการภายใต้

ฐานทางกฎหมาย ดังต่อไปนี้

1) การปฏิบัติตามสัญญา หรือเพื่อดำเนินการขั้นตอนต่าง ๆ ตามที่เจ้าของข้อมูลร้องขอก่อนจะเข้าทำสัญญากับบริษัท

2) เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทหรือบุคคลภายนอก โดยที่ประโยชน์ดังกล่าวไม่เกินกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลและเสรีภาพของเจ้าของข้อมูล

3) เป็นการจำเป็นในการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย

4) ความยินยอมที่บริษัทได้รับจากเจ้าของข้อมูลในหนังสือขอความยินยอมให้เก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผย (เอกสารแนบท้าย ภาคผนวก ก.) หรือ

5) ในกรณีอื่นใดที่สามารถทำได้ภายใต้ขอบเขตของกฎหมาย

เฉพาะในกรณีการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว บริษัทดำเนินการ

ภายใต้ฐานทางกฎหมาย ดังต่อไปนี้

1) ความยินยอมโดยชัดแจ้ง ที่บริษัทได้รับจากเจ้าของข้อมูลในหนังสือขอความยินยอมให้เก็บ รวบรวม
ใช้ และ/หรือเปิดเผยประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (เอกสารแนบท้าย ภาคผนวก ก.)

2) เป็นการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล

3) เป็นการจำเป็นเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตาม

กฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือ

4) กรณีอื่นใดที่สามารถทำได้ภายใต้ขอบเขตของกฎหมาย

    7. ประเภทของบุคคลหรือหน่วยงานที่บริษัทเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล

บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล (เฉพาะเท่าที่จำเป็น) ให้กับบุคคลหรือหน่วยงานภายนอกตามวัตถุประสงค์ที่ได้ระบุไว้ในเอกสารฉบับนี้ โดยบุคคลหรือหน่วยงานภายนอกดังกล่าวอาจตั้งอยู่ในประเทศไทยหรือในต่างประเทศ ดังต่อไปนี้

1) บริษัท เบอร์รี่ บี กรุ๊ป  จำกัด

บริษัทอาจแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลให้กับบริษัทในเครือของบริษัท และบริษัท เบอร์รี่ บี กรุ๊ป  จำกัด ทั้งนี้ เพื่อการบริหารความเสี่ยง แลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน การตรวจสอบภายในกลุ่มบริษัท และเพื่อเป็นสวัสดิการของพนักงานบริษัท ได้แก่ บริการให้กู้ยืมเงิน บริการรับฝากเงิน เป็นต้น

2) บุคคลภายนอกซึ่งเป็นผู้ให้บริการที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการของบริษัท

บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลให้กับบุคคลดังกล่าว ไม่ว่าบุคคลนั้นจะทำหน้าที่เป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ตัวอย่างเช่น ผู้ให้บริการจัดทำบัญชี ธนาคารผู้ให้บริการเทคโนโลยีสารสนเทศ ผู้ให้บริการคลาวด์ (Cloud) ผู้ให้บริการจัดเก็บข้อมูลหรือเอกสาร ผู้ให้บริการแอพพลิเคชั่น  ผู้ให้บริการสถานที่ และที่จอดรถ เป็นต้น

3) หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง

บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลกับเจ้าหน้าที่รัฐและหน่วยงานรัฐบาล ซึ่งมีอำนาจตามกฎหมาย หรือเพื่อการปกป้องสิทธิของบริษัท สิทธิของบุคคลอื่น หรือเพื่อประโยชน์ของเจ้าของข้อมูลเช่น สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน กรมบัญชีกลาง ศาลยุติธรรม กรมสรรพากร กรมบังคับคดี เป็นต้น

4) บุคคลหรือหน่วยงานภายนอกอื่น ๆ

บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลแก่บุคคลหรือหน่วยงานภายนอกให้เข้าถึงข้อมูล

ส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล ตัวอย่างเช่น ที่ปรึกษาวิชาชีพ (เช่น ที่ปรึกษากฎหมายหรือผู้ตรวจสอบ ภายนอก) และหน่วยงานภายนอกที่บริษัทประสงค์จะประชาสัมพันธ์ ตามวัตถุประสงค์ที่ได้ระบุไว้ข้างต้น

    8. การดำเนินการของผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

กรณีที่บริษัททำสัญญาจ้างบุคคลภายนอกเพื่อประมวลผลข้อมูล บริษัทจะตรวจสอบให้ผู้ประมวลข้อมูลส่วนบุคคลดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งของบริษัทเท่านั้น รวมทั้งควบคุมให้การดำเนินงานเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมายและพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562

ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลจะต้องจัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความเหมาะสม เพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง การใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบ รวมทั้ง จะต้องรายงานให้บริษัททราบโดยทันที และจะต้องจัดให้มีมาตรการเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นจากเหตุเช่นว่านั้นต่อเจ้าของข้อมูลโดยพลัน

    9. ข้อจำกัดในการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้

บริษัทจะไม่เก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เว้นแต่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล หรือเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กฎหมายกำหนดให้กระทำได้

    10.การรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทมีมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสม เพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง ทำลาย ดัดแปลง แก้ไข หรือเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล โดยไม่ได้รับอนุญาต หรือโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย

ในกรณีที่มีเหตุการณ์ละเมิดต่อข้อมูลส่วนบุคคล  บริษัทจะดำเนินการแจ้งแก่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล นอกจากนี้ ในกรณีที่การละเมิดมีความเสี่ยงสูงที่จะมีผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคล บริษัทจะดำเนินการแจ้งเจ้าของข้อมูลพร้อมกับแนวทางการเยียวยาให้ทราบโดยไม่ชักช้าด้วย ทั้งนี้ เป็นไปตามเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือประกาศ หรือกฎ หรือระเบียบที่ออกตามกฎหมายดังกล่าว

    11. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทกำหนดให้เจ้าของข้อมูลมีสิทธิขอสำเนาเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของตนเองได้ ในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลไม่ถูกต้อง เจ้าของข้อมูลสามารถแจ้งเพื่อให้มีการแก้ไข เปลี่ยนแปลง ขอเพิกถอนความยินยอม ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลระหว่างรอการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลส่วนบุคคล ลบหรือทำลาย หรือทำให้ไม่สามารถระบุตัวเจ้าของข้อมูลนั้นได้ รวมทั้งขอให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น โดยบริษัทจะจัดทำบันทึกคำคัดค้านการจัดเก็บ การแก้ไขความถูกต้องของข้อมูล หรือการกระทำใดๆ ที่เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลไว้เป็นหลักฐาน

นอกจากนี้ เจ้าของข้อมูลมีสิทธิร้องเรียนต่อคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่บริษัทฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือประกาศ หรือกฎ หรือระเบียบที่ออกตามกฎหมายดังกล่าว

กรณีที่เจ้าของข้อมูลมีความประสงค์จะใช้สิทธิดังกล่าวข้างต้น สามารถยื่นคำร้องขอใช้สิทธิต่อบริษัทตามแบบฟอร์มที่บริษัทกำหนด (เอกสารแนบท้าย ภาคผนวก ข.) ผ่านช่องทางการติดต่อของบริษัทดังที่ได้ระบุเอาไว้ด้านล่าง ทั้งนี้ เจ้าของข้อมูลไม่จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายสำหรับการดำเนินการตามสิทธิข้างต้น

    12. ข้อสงวนสิทธิ

บริษัทขอสงวนสิทธิในการปฏิเสธคำร้องขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูล ตามข้อ 11. ในกรณีดังต่อไปนี้

12.1 กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกำหนดให้สามารถดำเนินการได้

12.2 ข้อมูลส่วนบุคคลถูกทำให้ไม่ปรากฏชื่อหรือบอกลักษณะอันสามารถระบุตัวเจ้าของข้อมูลได้

12.3 ผู้ยื่นคำร้องไม่มีหลักฐานยืนยันว่าเป็นเจ้าของข้อมูลหรือเป็นผู้มีอำนาจในการยื่นคำร้องดังกล่าว

12.4 คำร้องดังกล่าวเป็นคำร้องขอฟุ่มเฟือย เช่น เป็นคำร้องขอที่มีลักษณะเดียวกันหรือมีเนื้อหาเดียวกัน
ซ้ำๆ โดยไม่มีเหตุอันสมควร เป็นต้น

12.5 กรณีที่มีเหตุจำเป็นประการอื่น เช่น ต้องปฏิบัติตามคำสั่งศาล หรือพนักงาน หรือเจ้าหน้าที่ของ

หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง การดำเนินการเป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะ การใช้สิทธิอาจละเมิดสิทธิ
หรือเสรีภาพของบุคคลอื่น เป็นต้น

อนึ่ง บริษัทจะแจ้งเหตุผลในการปฏิเสธคำร้องขอให้เจ้าของข้อมูลทราบด้วย

    13. แนวปฏิบัติว่าด้วยเรื่องการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะกำหนดแนวปฏิบัติเรื่องต่างๆ เกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อใช้บังคับต่อไป

    14. การใช้คุกกี้

หากบริษัทมีความจำเป็นต้องเก็บ รวบรวม ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการเข้าสู่เว็บไซต์ และ/หรือ แอพพลิเคชั่น ของเจ้าของข้อมูล ซึ่งจะถูกบันทึกไว้ในรูปแบบของคุกกี้ บริษัทจะดำเนินการประกาศใช้นโยบายการใช้คุกกี้ต่อไป

อนึ่ง นโยบายการใช้คุกกี้ของบริษัทอย่างน้อยจะต้องกำหนดรายละเอียด เกี่ยวกับคำนิยามและความหมายของคุกกี้ การทำงาน วัตถุประสงค์ รวมถึงการลบและการปฏิเสธการเก็บคุกกี้ เพื่อความเป็นส่วนตัวของเจ้าของข้อมูล และจะต้องกำหนดให้มีข้อความแจ้งเตือนเจ้าของข้อมูลเมื่อเข้าสู่เว็บไซต์ และ/หรือแอพพลิเคชั่นของบริษัทว่า เจ้าของข้อมูลยอมรับและได้อนุญาตให้บริษัทใช้คุกกี้ได้ตามนโยบายที่บริษัทกำหนดแล้ว

    15. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลตามระยะเวลาที่เหมาะสมและจำเป็น สำหรับข้อมูลส่วนบุคคลแต่ละประเภทและวัตถุประสงค์ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลตามอายุความหรือระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด (เช่น กฎหมายบริษัทมหาชนจำกัด กฎหมายหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ กฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กฎหมายการบัญชี กฎหมายภาษีอากร กฎหมายแรงงาน และกฎหมายอื่นที่บริษัทฯต้องปฏิบัติตาม ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ นอกจากนี้ บริษัทอาจจะจำเป็นต้องเก็บบันทึกข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่สำนักงานใหญ่ สำนักงานสาขา หรือโรงงานที่ผลิต เพื่อประโยชน์ในการป้องกันเหตุทุจริตและการรักษาความปลอดภัย) เมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาการเก็บรักษาดังกล่าว บริษัทจะลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลได้

อนึ่ง บริษัทจะเก็บ รักษา รวมทั้งทำลายข้อมูลส่วนบุคคล ตามวัตถุประสงค์แหลักเกณฑ์ที่บริษัทกำหนด

    16. การดำเนินการต่อข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์เดิม

บริษัทมีสิทธิเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลที่บริษัทได้เก็บรวบรวมไว้ก่อนวันที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม การใช้ และ/หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับต่อไปตามวัตถุประสงค์เดิม หากเจ้าของข้อมูลไม่ประสงค์ที่จะให้บริษัทเก็บรวมรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวต่อไป เจ้าของข้อมูลสามารถแจ้งบริษัทเพื่อขอถอนความยินยอมของเจ้าของข้อมูลเมื่อใดก็ได้

    17.การทบทวนและเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทสามารถแก้ไข ยกเลิก เปลี่ยนแปลง หรือ ปรับปรุงนโยบายและระเบียบนี้ได้ เพื่อให้สอดคล้องกับข้อกำหนดตามกฎหมาย การเปลี่ยนแปลงการดำเนินงานของบริษัท รวมทั้งข้อเสนอแนะและความคิดเห็นจากหน่วยงานต่างๆ ตามความเหมาะสมตามควรแก่กรณี โดยบริษัทจะประกาศแจ้งให้ทราบก่อนเริ่มดำเนินการหรืออาจส่งประกาศแจ้งเตือนให้เจ้าของข้อมูลทราบตามช่องทางการสื่อสารของบริษัท

    18.ช่องทางการติดต่อบริษัท

คณะทำงานกำกับดูแลการดำเนินการตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (คณะทำงาน PDPA)
สถานที่ติดต่อ : เลขที่ 266/4 ถนนพหลโยธิน เเขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม. 10220.
ช่องทางการติดต่อ : PDPA_dpo@berryb.co.th

    รายละเอียดของหน่วยงานที่กำกับดูแล

    กรณีที่บริษัท หรือลูกจ้าง หรือพนักงานของบริษัท ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลสามารถร้องเรียนต่อหน่วยงานที่กำกับดูแล ตามรายละเอียดดังต่อไปนี้

    ชื่อ : สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
    สถานที่ติดต่อ : 120 หมู่ 3 ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาฯ อาคารรัฐประศาสนภักดี (อาคารบี)
    ชั้น 7 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ 10210
    โทรศัพท์ : 02 141 6993, 02 142 1033
    ช่องทางการติดต่อ : pdpc@mdes.go.th

นโยบายการใช้คุกกี้

นโยบายการใช้คุกกี้

เมื่อท่านได้เข้าสู่เว็บไซต์ (www.berryb.co.th) ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการเข้าสู่เว็บไซต์ ของท่านจะถูกบันทึกไว้ในรูปแบบของคุกกี้ โดยนโยบายคุกกี้นี้จะอธิบายถึงความหมาย การทำงาน วัตถุประสงค์ รวมถึงการลบและการปฏิเสธการเก็บคุกกี้ เพื่อความเป็นส่วนตัวของท่าน โดยการเข้าสู่เว็บไซต์นี้ถือว่าท่านได้อนุญาตให้เราใช้คุกกี้ตามนโยบายคุกกี้ที่มีรายละเอียดดังต่อไปนี้

คุกกี้คืออะไร

                คุกกี้ คือ ไฟล์เล็ก ๆ เพื่อจัดเก็บข้อมูลการเข้าใช้งานเว็บไซต์ เช่น วันเวลา ลิงค์ที่คลิก หน้าที่เข้าชม เงื่อนไขการตั้งค่าต่าง ๆ โดยจะบันทึกลงไปในอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และ/หรือ เครื่องมือสื่อสารที่เข้าใช้งานของท่าน เช่น โน๊ตบุ๊ค แท็บเล็ต หรือ สมาร์ทโฟน ผ่านทางเว็บเบราว์เซอร์ในขณะที่ท่านเข้าสู่เว็บไซต์ โดยคุกกี้จะไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่ออุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และ/หรือ เครื่องมือสื่อสารของท่าน ในกรณีดังต่อไปนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจถูกจัดเก็บเพื่อใช้เพิ่มประสบการณ์การใช้งานบริการทางออนไลน์ โดยจะจำเอกลักษณ์ของภาษาและปรับแต่งข้อมูลการใช้งานตามความต้องการของท่าน เป็นการยืนยันคุณลักษณะเฉพาะตัว ข้อมูลความปลอดภัยของท่าน รวมถึงบริการที่ท่านสนใจ นอกจากนี้คุกกี้ยังถูกใช้เพื่อวัดปริมาณการเข้าใช้งานบริการทางออนไลน์ การปรับเปลี่ยนเนื้อหาตามการใช้งานของท่านโดยพิจารณาจากพฤติกรรมการเข้าใช้งานครั้งก่อน ๆ และ ณ ปัจจุบัน และอาจมีวัตถุประสงค์เพื่อการโฆษณาประชาสัมพันธ์
ทั้งนี้ท่านสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคุกกี้ได้ที่ www.allaboutcookies.org                

บริษัท ใช้คุกกี้อย่างไร

                บริษัท ใช้คุกกี้ เพื่อบันทึกการเข้าเยี่ยมชมและสมัครเข้าใช้งานเว็บไซต์ของท่าน โดยทำให้ บริษัท สามารถจดจำการใช้งานเว็บไซต์ของท่านได้ง่ายขึ้น และข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำไปเพื่อปรับปรุงเว็บไซต์ของ  บริษัทให้ตรงกับความต้องการของท่านมากยิ่งขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวกให้เกิดความรวดเร็วในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน และในบางกรณีบริษัท จำเป็นต้องให้บุคคลที่สามช่วยดำเนินการดังกล่าว ซึ่งอาจจะต้องใช้ อินเตอร์เน็ตโปรโตคอลแอดเดรส (IP Address) และคุกกี้เพื่อวิเคราะห์ทางสถิติ ตลอดจนเชื่อมโยงข้อมูล และประมวลผลตามวัตถุประสงค์ทางการตลาด  

                คุกกี้ที่บริษัท ใช้ อาจจะแบ่งได้ 2 ประเภทตามการจัดเก็บ ดังนี้

                1. Session Cookies เป็นคุกกี้ที่จะอยู่ชั่วคราวเพื่อจดจำท่านในระหว่างที่ท่านเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของ บริษัท เช่น เฝ้าติดตามภาษาที่ท่านได้ตั้งค่าและเลือกใช้ เป็นต้น และจะมีการลบออกจากเครื่องคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ของท่าน เมื่อท่านออกจากเว็บไซต์หรือได้ทำการปิดเว็บเบราว์เซอร์

                2. Persistent Cookie เป็นคุกกี้ที่จะอยู่ตามระยะเวลาที่กำหนดหรือจนกว่าท่านจะลบออก คุกกี้ประเภทนี้จะช่วยให้เว็บไซต์ของบริษัท จดจำท่านและการตั้งค่าต่าง ๆ ของท่านเมื่อท่านกลับมาใช้บริการเว็บไซต์อีกครั้ง ซึ่งจะช่วยให้ท่านเข้าใช้บริการเว็บไซต์ได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น

วัตถุประสงค์ในการใช้งานคุกกี้ที่ บริษัท ใช้ มีรายละเอียดดังนี้

  • คุกกี้ที่มีความจำเป็น (Strictly Necessary Cookies)

คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของ บริษัท เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของ  บริษัท ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์และประเมินผลการใช้งาน (Performance Cookies)

คุกกี้ประเภทนี้ช่วยให้บริษัท ทราบถึงการปฏิสัมพันธ์ของผู้ใช้งานในการใช้บริการเว็บไซต์ของบริษัท รวมถึงหน้าเพจหรือพื้นที่ใดของเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยม ตลอดจนการวิเคราะห์ข้อมูลด้านอื่น ๆ บริษัท  ยังใช้ข้อมูลนี้เพื่อการปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์ และเพื่อเข้าใจพฤติกรรมของผู้ใช้งานมากขึ้น ถึงแม้ว่า ข้อมูลที่คุกกี้นี้เก็บรวบรวมจะเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ และนำมาใช้วิเคราะห์ทางสถิติเท่านั้น การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ บริษัท ไม่สามารถทราบปริมาณผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ และไม่สามารถประเมินคุณภาพการให้บริการได้

  • คุกกี้เพื่อการใช้งานเว็บไซต์ (Functional Cookies)

คุกกี้ประเภทนี้จะช่วยให้เว็บไซต์ของ บริษัท จดจำตัวเลือกต่าง ๆ ที่ท่านได้ตั้งค่าไว้และช่วยให้เว็บไซต์ส่งมอบคุณสมบัติและเนื้อหาเพิ่มเติมให้ตรงกับการใช้งานของท่านได้ เช่น ช่วยจดจำชื่อบัญชีผู้ใช้งานของท่าน หรือจดจำการเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าขนาดฟอนต์หรือการตั้งค่าต่าง ๆ ของหน้าเพจซึ่งท่านสามารถปรับแต่งได้ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้อาจส่งผลให้เว็บไซต์ไม่สามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์

  • คุกกี้เพื่อการโฆษณาไปยังกลุ่มเป้าหมาย (Targeting Cookies)

คุกกี้ประเภทนี้เป็นคุกกี้ที่เกิดจากการเชื่อมโยงเว็บไซต์ของบุคคลที่สาม ซึ่งเก็บข้อมูลการเข้าใช้งานและเว็บไซต์ที่ท่านได้เข้าเยี่ยมชม เพื่อนำเสนอสินค้าหรือบริการบนเว็บไซต์อื่นที่ไม่ใช่เว็บไซต์ของ บริษัท ทั้งนี้ หากท่านปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะไม่ส่งผลต่อการใช้งานเว็บไซต์ของ  บริษัท แต่จะส่งผลให้การนำเสนอสินค้าหรือบริการบนเว็บไซต์อื่น ๆ ไม่สอดคล้องกับความสนใจของท่าน

ประเภทของคุกกี้

รายละเอียด

ตัวอย่าง

คุกกี้ที่มีความจำเป็น (Strictly Necessary Cookies)

คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของ  บริษัท เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของ  บริษัท ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้

PHPSESSID

JSESSIONID

คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์แลประเมินผลการใช้งาน (Performance Cookies)

คุกกี้ประเภทนี้ช่วยให้  บริษัท ทราบถึงการปฏิสัมพันธ์ของผู้ใช้งานในการใช้บริการเว็บไซต์ของ  บริษัท  รวมถึงหน้าเพจหรือพื้นที่ใดของเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยม ตลอดจนการวิเคราะห์ข้อมูลด้านอื่น ๆ  บริษัท ยังใช้ข้อมูลนี้เพื่อการปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์ และเพื่อเข้าใจพฤติกรรมของผู้ใช้งานมากขึ้น ถึงแม้ว่า ข้อมูลที่คุกกี้นี้เก็บรวบรวมจะเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ และนำมาใช้วิเคราะห์ทางสถิติเท่านั้น การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้  บริษัท ไม่สามารถทราบปริมาณผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ และไม่สามารถประเมินคุณภาพการให้บริการได้

__utmc

_hjIncludedInPageviewSample

_hjTLDTest

_gid

__utma

__utmb

__utmt

__utmz

_hjid

_ga

_hjAbsoluteSessionInProgress

_hjFirstSeen

คุกกี้เพื่อการใช้งานเว็บไซต์ (Functional Cookies)

คุกกี้ประเภทนี้จะช่วยให้เว็บไซต์ของ  บริษัท จดจำตัวเลือกต่าง ๆ ที่ท่านได้ตั้งค่าไว้และช่วยให้เว็บไซต์ส่งมอบคุณสมบัติและเนื้อหาเพิ่มเติมให้ตรงกับการใช้งานของท่านได้ เช่น ช่วยจดจำชื่อบัญชีผู้ใช้งานของท่าน หรือจดจำการเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าขนาดฟอนต์หรือการตั้งค่าต่าง ๆ ของหน้าเพจซึ่งท่านสามารถปรับแต่งได้ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้อาจส่งผลให้เว็บไซต์ไม่สามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์

fbsr_340486642645761

คุกกี้เพื่อการโฆษณาไปยังกลุ่มเป้าหมาย (Targeting Cookies)

คุกกี้ประเภทนี้เป็นคุกกี้ที่เกิดจากการเชื่อมโยงเว็บไซต์ของบุคคลที่สาม ซึ่งเก็บข้อมูลการเข้าใช้งานและเว็บไซต์ที่ท่านได้เข้าเยี่ยมชม เพื่อนำเสนอสินค้าหรือบริการบนเว็บไซต์อื่นที่ไม่ใช่เว็บไซต์ของ  บริษัท ทั้งนี้ หากท่านปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะไม่ส่งผลต่อการใช้งานเว็บไซต์ของ  บริษัท แต่จะส่งผลให้การนำเสนอสินค้าหรือบริการบนเว็บไซต์อื่น ๆ ไม่สอดคล้องกับความสนใจของท่าน

gat_gtag_xxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx

_utmv#########

TESTCOOKIESENABLED

YSC

NID

test_cookie

GPS

VISITOR_INFO1_LIVE

ท่านจะจัดการคุกกี้ได้อย่างไร

บราวเซอร์ส่วนใหญ่จะมีการตั้งค่าให้มีการยอมรับคุกกี้เป็นค่าเริ่มต้น อย่างไรก็ตาม ท่านสามารถปฏิเสธการใช้งานหรือลบคุกกี้ในหน้าการตั้งค่าของบราวเซอร์ที่ท่านใช้งานอยู่ ทั้งนี้ หากท่านทำการปรับเปลี่ยนการตั้งค่าบราวเซอร์ของท่านอาจส่งผลกระทบต่อรูปแบบและการใช้งานบนหน้าเว็บไซต์ของเราได้ หากท่านประสงค์ที่จะทำการปรับเปลี่ยนการตั้งค่า ท่านสามารถตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมได้ตามลิงก์ที่ได้ระบุไว้ข้างล่าง

– Android (Chrome)

https://support.google.com/chrome/answer/95647?co=GENIE.Platform%3DAndroid&hl=en&oco=1

– Apple Safari

https://support.apple.com/en-gb/guide/safari/sfri11471/mac

– Blackberry

https://docs.blackberry.com/content/dam/docs-blackberry-com/release-pdfs/en/device-user-guides/BlackBerry-Classic-Smartphone-10.3.3-User-Guide-en.pdf

– Google Chrome

https://support.google.com/chrome/answer/95647?co=GENIE.Platform%3DDesktop&hl=en

– Microsoft Edge

https://support.microsoft.com/en-us/windows/microsoft-edge-browsing-data-and-privacy-bb8174ba-9d73-dcf2-9b4a-c582b4e640dd

– Microsoft Internet Explorer

https://support.microsoft.com/en-us/topic/delete-and-manage-cookies-168dab11-0753-043d-7c16-ede5947fc64d

– Mozilla Firefox

https://support.mozilla.org/en-US/kb/enhanced-tracking-protection-firefox-desktop?redirectslug=enable-and-disable-cookies-website-preferences&redirectlocale=en-US

– Opera

https://help.opera.com/en/latest/web-preferences/

– Iphone or Ipad (Chrome)

https://support.google.com/chrome/answer/95647?co=GENIE.Platform%3DiOS&hl=en&oco=1

– Iphone or Ipad (Safari)

https://support.apple.com/en-us/HT201265

                ทั้งนี้ โปรดทราบว่า หากท่านเลือกที่จะปิดการใช้งานคุกกี้บนเบราว์เซอร์หรืออุปกรณ์ของท่าน อาจส่งผลกระทบกับการทำงานบางส่วนของเว็บไซต์ของ  บริษัท ที่ไม่สามารถทำงานหรือให้บริการได้เป็นปกติ

                บริษัท จะไม่รับผิดชอบและ  บริษัท ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ รวมทั้งเนื้อหาในเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่กล่าวมาข้างบน

                สำหรับข้อมูลอื่น ๆ เพิ่มเติมในเรื่องนี้ ท่านสามารถเข้าไปอ่านได้ที่ https://www.aboutcookies.org/how-to-delete-cookies

การเชื่อมโยงข้อมูลกับเว็บไซต์อื่น

                เว็บไซต์ของ  บริษัท อาจมีการเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์หรือโซเชียลมีเดียของบุคคลภายนอก รวมถึงอาจมีการฝังเนื้อหาหรือวีดีโอที่มาจากโซเชียลมีเดีย เช่น YouTube หรือ Facebook เป็นต้น ซึ่งจะช่วยให้ท่านเข้าถึงเนื้อหาและสร้างการปฏิสัมพันธ์กับบุคคลอื่นบนโซเชียลมีเดียจากเว็บไซต์ของ  บริษัท ได้ ซึ่งเว็บไซต์หรือโซเชียลมีเดียของบุคคลภายนอกจะมีการกำหนดและตั้งค่าคุกกี้ขึ้นมาเอง โดยที่  บริษัท ไม่สามารถควบคุมหรือรับผิดชอบต่อคุกกี้เหล่านั้นได้ และขอแนะนำให้ท่านควรเข้าไปอ่านและศึกษานโยบายหรือประกาศการใช้คุกกี้ของบุคคลภายนอกเหล่านั้นด้วย

การเปลี่ยนแปลงประกาศ

                ประกาศนี้อาจมีการปรับปรุงให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์และตามการให้บริการจริง โดย  บริษัท จะมีการแจ้งประกาศที่มีการปรับปรุงใหม่บนเว็บไซต์นี้ ดังนั้น  บริษัท ขอแนะนำให้ท่านตรวจสอบให้แน่ใจว่าท่านได้เข้าใจการเปลี่ยนแปลงตามข้อกำหนดดังกล่าว

นโยบายความเป็นส่วนตัวการใช้งานกล้องวงจรปิด (CCTV)

นโยบายความเป็นส่วนตัวการใช้งานกล้องวงจรปิด (CCTV)

นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ (“นโยบาย”) จะอธิบายเกี่ยวกับการใช้อุปกรณ์กล้องวงจรปิด (“CCTV”) ที่ บริษัท เบอร์รี่ บี กรุ๊ป  จำกัด (ซึ่งต่อไปนี้เรียกว่า “บริษัท” “เรา” หรือ “ของเรา”) ได้ใช้อุปกรณ์ CCTV พร้อมกับระบบต่างๆ สำหรับการตรวจสอบภายในพื้นที่ใดเป็นการเฉพาะ รวมถึงพื้นที่รอบๆ บริเวณของท่าเทียบเรือ สถานที่ อาคาร และพื้นที่ใดๆ เพื่อการป้องกันชีวิต อนามัย และทรัพย์สิน โดยมีข้อมูลส่วนบุคคลของลูกจ้าง กรรมการบริษัท คู่ค้า  ผู้ปฏิบัติงาน ผู้มาติดต่อ หรือบุคคลใดก็ตาม (ซึ่งจะรวมเรียกว่า “ท่าน” หรือ “ของท่าน) ที่ได้เข้าไปอยู่ในบริเวณพื้นที่ที่ทำการตรวจสอบภายในอาคารและพื้นที่ใดๆ ดังกล่าว นอกจากนี้ นโยบายฉบับนี้อธิบายถึงวิธีการ
ในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และการส่งหรือโอนย้ายข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ (“ข้อมูลส่วนบุคคล”) ของท่าน และระบุถึงวิธีการในการจัดการหรือการใช้ระบบ CCTV ของเรา ทั้งนี้ เราอาจทำการแก้ไขเพิ่มเติมนโยบายฉบับนี้ได้ทุกเมื่อและจะแจ้งถึงการแก้ไขดังกล่าวให้ท่านได้ทราบเท่าที่จะดำเนินการได้

1.ข้อมูลส่วนบุคคลประเภทใดบ้างที่เราเก็บรวบรวม

เราจะทำการเก็บภาพเคลื่อนไหวหรือภาพนิ่งซึ่งสามารถที่จะสามารถจดจำได้ว่าเป็นท่าน เสียงของท่าน รวมถึงทรัพย์สินของท่าน อาทิ ยานพาหนะ เมื่อเข้าไปในพื้นที่ที่ได้ทำการตรวจสอบภายในท่าเทียบเรือ สถานที่ อาคาร และพื้นที่ใดๆ ของเรา ผ่านระบบและอุปกรณ์ CCTV (“ข้อมูลจาก CCTV”)

2.เหตุใดเราจึงเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

2.1 เราอาจทำการรวบรวม เก็บภาพ ใช้ เปิดเผย โอน และดำเนินการใดๆ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการบันทึกการเก็บบันทึก การปรับเปลี่ยน การแก้ไข การดัดแปลง การทำลาย การลบ การกู้คืน การรวม การทำสำเนา การส่งผ่าน การเก็บรักษา การถอน การปรับปรุง การเพิ่มเติม ต่อข้อมูลจาก CCTV เกี่ยวกับท่านและข้อมูลส่วนบุคคลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับท่าน สำหรับ “วัตถุประสงค์การตรวจสอบโดย CCTV” ตามรายการที่ระบุไว้ด้านล่าง จะกระทำบนฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย เพื่อประโยชน์ต่อชีวิต เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย เพื่อประโยชน์สาธารณะ ตามความยินยอมที่ได้รับ หรือตามฐานอื่นใดที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายที่บังคับใช้ในประเทศไทย (โดยที่ผลประโยชน์เหล่านั้นจะไม่เป็นการก้าวล่วงต่อสิทธิและผลประโชน์ของบุคคลใด) ซึ่งอาจพิจารณาได้ตามกรณีดังนี้

  • เพื่อปกป้องชีวิต ร่างกาย ความปลอดภัยอนามัยส่วนบุคคล และ/หรือทรัพย์สินส่วนตัวของท่าน
  • เพื่อควบคุมการเข้ามาภายในเขตท่าเทียบเรือ อาคารและเพื่อการรักษาความปลอดภัยของท่าเทียบเรือ อาคาร บุคลากร พนักงาน และผู้มาติดต่อ รวมทั้งทรัพย์สินและข้อมูลของเราที่ตั้งอยู่หรือเก็บไว้ในสถานที่นั้นๆ
  • เพื่อการปกป้อง/ป้องกันท่าเทียบเรือ สถานที่ อาคาร พื้นที่ต่างๆ และทรัพย์สินของเรา จากความเสียหาย การหยุดชะงัก การทำลาย และอาชญากรรมอื่นๆ
  • เพื่อช่วยเหลือในการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทอย่างมีประสิทธิภาพที่เกิดขึ้นในขณะทำการลงโทษทางวินัยหรือการพิจารณาเรื่องร้องทุกข์
  • เพื่อช่วยเหลือในการสืบสวนสอบสวนหรือการดำเนินการเกี่ยวกับการร้องเรียน และการแจ้งเบาะแส
  • เพื่อนำไปใช้ในการพิสูจน์หรือหักล้างในการดำเนินคดีทางแพ่ง ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการดำเนินกระบวนพิจารณาคดีแรงงาน
  • เพื่อปฏิบัติตามหน้าที่ตามกฎหมายของเรา และ/หรือ การให้ความร่วมมือกับศาล หน่วยงานกำกับดูแล หน่วยงานของรัฐ และหน่วยงานที่มีอำนาจบังคับใช้กฎหมาย สำหรับการใช้อำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงเพื่อความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน พวกเราเล็งเห็นว่าการใช้ระบบ CCTV เป็นมาตรการที่จำเป็นเพื่อให้เราสามารถปฏิบัติตามภาระหน้าที่เหล่านั้นได้
  • เพื่อการใช้สิทธิของเราหรือปกป้องผลประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของเราในกรณีที่จำเป็นต้องทำเช่นนั้น เพื่อระงับยับยั้ง ป้องกันและตรวจจับการประพฤติมิชอบ อาชญากรรมหรือการฝ่าฝืนกฎหมาย ติดตามเหตุการณ์ เพื่อป้องกันและรายงานการประพฤติมิชอบหรืออาชญากรรมในร้านค้าของเราและเพื่อปกป้องความปลอดภัยและความมั่นคงของธุรกิจของเรา พวกเราจะพยายามอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างสมดุลระหว่างผลประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของเราและของบุคคลที่สาม และสิทธิขั้นพื้นฐานและเสรีภาพของท่านที่เกี่ยวข้องกับการปกป้องข้อมูลบนระบบ CCTV ที่เกี่ยวข้องกับท่าน ตามแต่กรณี เราจะพยายามระบุถึงขั้นตอนที่จำเป็นเพื่อให้เกิดความสมดุลที่เหมาะตามแต่สมควร

2.2 เราจะติดตั้งอุปกรณ์ CCTV ที่จุดสำคัญภายในท่าเทียบเรือ สถานที่ อาคารและพื้นที่ต่างๆ ของเรา ยกเว้นบางพื้นที่ เช่น ห้องสุขา

2.3 ระบบ CCTV ของเราเปิดใช้งานตลอด 24 ชั่วโมง โดยจะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของเราทำการเฝ้าดูผ่านอุปกรณ์ ยกเว้นในกรณีที่อุปกรณ์/ระบบเกิดความขัดข้อง และ/หรือต้องทำการซ่อมบำรุง

2.4 เราจะจัดวางป้ายตามความเหมาะสมในสถานที่ที่มีการใช้งานระบบ CCTV

3.บุคคลใดที่อาจได้รับการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

3.1 เราจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับท่านในระบบ CCTV ไว้เป็นความลับ และจะทำการเปิดเผยหรือถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเฉพาะเพียงบริษัทของเรา บุคคลภายนอกอื่นๆ ที่จะถูกคัดเลือกอย่างระมัดระวังในเวลานี้หรือในอนาคต ผู้ได้รับอนุญาต พันธมิตรกิจการร่วมค้า และ/หรือผู้ให้บริการ (ซึ่งอาจตั้งอยู่ในต่างประเทศ) เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์การตรวจสอบโดย CCTV ตามที่ระบุไว้ในนโยบายนี้

3.2 บุคคลภายนอกซึ่งเราอาจเปิดเผยข้อมูลจากระบบ CCTV และข้อมูลส่วนบุคคลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับท่าน ซึ่งรวมถึงการเปิดเผยต่อบริษัทในเครือของเรา (เป็นส่วนหนึ่งของประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของเราและประโยชน์ของบริษัทในเครือของเรา เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์การตรวจสอบโดย CCTV) หน่วยงานภาครัฐ และ/หรือองค์กรที่ทำหน้าที่กำกับดูแล (เพื่อปฏิบัติตามหน้าที่ตามกฎหมาย หรือเพื่อสนับสนุนหรือช่วยเหลือแก่องค์กรบังคับใช้กฎหมายในเรื่องการสอบสวนและดำเนินคดีทางแพ่งหรือทางอาญา) และผู้ให้บริการบุคคลที่สาม (ตามขั้นตอนที่จำเป็นของเราเพื่อให้แน่ใจว่า เราจะให้การคุ้มครองต่อสุขภาพและความปลอดภัยส่วนบุคคล และทรัพย์สินของท่าน) อย่างไรก็ตามการเข้าถึงข้อมูลระบบ CCTV นั้น อาจเป็นการเข้าถึงหรือเปิดเผยได้เท่าที่จำเป็นเพื่อจัดการกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซึ่งอยู่ภายใต้หนึ่งในวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในข้อ 3.2 นี้ หรือเพื่อตอบสนองการร้องขอของบุคคลตามกฎหมายภายใต้ข้อ 2.1

4.มาตรการรักษาความปลอดภัย

4.1 เราจะจัดให้มีระบบเทคนิค และการบริหารจัดการมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม เพื่อป้องกันข้อมูลจากระบบ CCTV และข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับท่านจากการถูกทำลาย การสูญหาย การเข้าถึง การใช้งาน การเปลี่ยนแปลง หรือการเปิดเผย โดยไม่ได้ตั้งใจ โดยผิดกฎหมาย หรือโดยไม่ได้รับอนุญาต

4.2 เราจะทบทวนและปรับปรุงมาตรการรักษาความปลอดภัยของเราเป็นครั้งคราวตามความจำเป็น หรือเมื่อมีการพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มั่นใจว่ามาตรการรักษาความปลอดภัยมีประสิทธิภาพและเหมาะสม สอดคล้องกับข้อกำหนดทางกฎหมายขั้นต่ำ ตามที่กำหนดโดยหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง

5.ระยะเวลาในการที่เราเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

เราจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เราได้มาจากระบบ CCTV ไว้ในระบบของเราตามระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์การตรวจสอบโดย CCTV หากเราไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายที่ใช้บังคับในการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากระบบ CCTV อีกต่อไป เราจะทำการลบข้อมูลเหล่านั้นออกจากระบบและการบันทึกของเรา อย่างไรก็ตามเราอาจทำการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากระบบ CCTV เป็นระยะเวลานานขึ้น ตัวอย่างเช่น ทำการเก็บไว้จนกว่าจะสิ้นสุดของการดำเนินการตามกฎหมาย หรือมีกฎหมายที่กำหนดระยะเวลาในการเก็บข้อมูลที่ยาวนานกว่า หรือมีข้อมูลระบบ CCTV บางอย่างซึ่งต้องทำการเก็บรักษาไว้สำหรับการดำเนินการต่อเหตุการณ์บางเรื่อง หรือเพื่อตอบสนองต่อข้อเรียกร้องจากบุคคลหนึ่งบุคคลใดในการใช้สิทธิตามกฎหมาย

6.ท่านมีสิทธิอย่างไรเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

ภายใต้บทบัญญัติแห่งกฎหมายและข้อยกเว้นตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ท่านอาจมีสิทธิในการขอเข้าถึง และ/หรือขอรับสำเนา โอนย้าย แก้ไข ลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลกลายเป็นข้อมูลที่ไม่ระบุตัวตนในข้อมูลส่วนบุคคล บางประเภทของท่านที่เรามี ระงับและ/หรือคัดค้านกิจกรรมบางประเภทที่เรามีและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในกรณีที่การดำเนินการใดของเรากระทำภายใต้ความยินยอมของท่าน ท่านอาจเพิกถอนความยินยอมของท่านได้ แต่อาจเป็นสาเหตุให้เราไม่สามารถให้บริการของเราแก่ท่านได้อย่างเต็มที่ ท่านอาจมีสิทธิร้องขอให้เราเปิดเผยว่าเราได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยไม่ได้รับความยินยอมจากท่านได้อย่างไร อีกทั้งยังอาจยื่นเรื่องร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่มีอำนาจตามกฎหมายที่บังคับใช้

7.รายละเอียดการติดต่อเรา

หากท่านมีข้อซักถามหรือข้อสงสัยประการใด หรือมีความประสงค์ที่จะสิทธิของท่านเกี่ยวกับข้อมูลระบบ CCTV โปรดติดต่อเราที่

1) ชื่อบริษัท

  • บริษัท เบอร์รี่ บี กรุ๊ป  จำกัด
  • เลขที่ 266/4 ถนนพหลโยธิน เเขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม. 10220.
  • +66 (0) 2-000-7785
  • PDPA_dpo@berryb.co.th
More

BERRY B GROUP CO., LTD.

266/4 Phaholyothin Rd., Anusawari,Bang Khen, Bangkok 10220.